คำนมัสการพระพุทธคุณ
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
องค์ใดพระสัมพุทธ สุวิสุทธะสันดาน
ตัดมูลกิเลสมาร บ่มิหม่นมิหมองมัว
หนึ่งในพระทัยท่าน ก็เบิกบานคือดอกบัว
ราคีบ่พันพัว สุวคนธะกำจร
องค์ใดประกอบด้วย พระกรุณาดังสาคร
โปรดหมู่ประชากร มละโอฆะกันดาร
ชี้ทางบรรเทาทุกข์ และชี้สุขเกษมสานต์
ชี้ทางพระนฤพาน อันพ้นโศกวิโยคภัย
พร้อมเบญจพิธจัก- ษุจรัสวิมลใส
เห็นเหตุที่ใกล้ไกล ก็เจนจบประจักษ์จริง
กำจัดน้ำใจหยาบ สันดานบาปแห่งชายหญิง
สัตว์โลกได้พึ่งพิง มละบาปบำเพ็ญบุญ
ลูกขอประณตน้อม ศิรเกล้าบังคมคุณ
สัมพุทธการุญ- ยภาพนั้นนิรันดร ฯ
ตัดมูลกิเลสมาร บ่มิหม่นมิหมองมัว
หนึ่งในพระทัยท่าน ก็เบิกบานคือดอกบัว
ราคีบ่พันพัว สุวคนธะกำจร
องค์ใดประกอบด้วย พระกรุณาดังสาคร
โปรดหมู่ประชากร มละโอฆะกันดาร
ชี้ทางบรรเทาทุกข์ และชี้สุขเกษมสานต์
ชี้ทางพระนฤพาน อันพ้นโศกวิโยคภัย
พร้อมเบญจพิธจัก- ษุจรัสวิมลใส
เห็นเหตุที่ใกล้ไกล ก็เจนจบประจักษ์จริง
กำจัดน้ำใจหยาบ สันดานบาปแห่งชายหญิง
สัตว์โลกได้พึ่งพิง มละบาปบำเพ็ญบุญ
ลูกขอประณตน้อม ศิรเกล้าบังคมคุณ
สัมพุทธการุญ- ยภาพนั้นนิรันดร ฯ
คำนมัสการพระธรรมคุณ
กาพย์ฉบัง ๑๖
ธรรมะคือคุณากร
|
ส่วนชอบสาธร
| ||
ดุจดวงประทีปชัชวาล
| |||
แห่งองค์พระศาสดาจารย์
|
ส่องสัตว์สันดาน
| ||
สว่างกระจ่างใจมล
| |||
ธรรมใดนับโดยมรรคผล
|
เป็นแปดพึงยล
| ||
และเก้านับทั้งนฤพาน
| |||
สมญาโลกอุดรพิสดาร
|
อันลึกโอฬาร
| ||
พิสุทธิ์พิเศษสุกใส
| |||
อีกธรรมต้นทางครรไล
|
นามขนานขานไข
| ||
ปฏิบัติปริยัติเป็นสอง
| |||
คือทางดำเนินดุจครอง
|
ให้ล่วงลุปอง
| ||
ยังโลกอุดรโดยตรง
| |||
ข้าขอโอนอ่อนอุตมงค์
|
นบธรรมจำนง
| ||
ด้วยจิตและกายวาจาฯ
| |||
คำนมัสการพระสังฆคุณ
กาพย์ฉบัง ๑๖
สงฆ์ใดสาวกศาสดา
|
รับปฏิบัติมา
| ||
แต่องค์สมเด็จภควันต์
|
เห็นแจ้งจตุสัจเสร็จบรร-
| ||
ลุทางที่อัน
|
ระงับและดับทุกข์ภัย
| ||
โดยเสด็จพระผู้ตรัสไตร
|
ปัญญาผ่องใส
| ||
สะอาดและปราศมัวหมอง
|
เหินห่างทางข้าศึกปอง
| ||
บ มิลำพอง
|
ด้วยกายและวาจาใจ
| ||
เป็นเนื้อนาบุญอันไพ-
|
ศาลแด่โลกัย
| ||
และเกิดพิบูลย์พูนผล
|
สมญาเอารสทศพล
| ||
มีคุณอนนต์
|
อเนกจะนับเหลือตรา
| ||
ข้าฯ ขอนบหมู่พระศรา-
|
พกทรงคุณา-
| ||
นุคุณประดุจรำพัน
|
ด้วยเดชบุญข้าอภิวันท์
| ||
พระไตรรัตน์อัน
|
อุดมดิเรกนิรัติศัย
| ||
จงช่วยขจัดโพยภัย
|
อันตรายใดใด
| ||
จงดับและกลับเสื่อมสูญ ฯ
| |||
คำนมัสการมาตาปิตุคุณ
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
ข้าขอนบชนกคุณ ชนนีเป็นเค้ามูล
ผู้กอบนุกูลพูน ผดุงจวบเจริญวัย
ฟูมฟักทะนุถนอม บ บำราศนิราไกล
แสนยากเท่าไรไร บ คิดยากลำบากกาย
ตรากทนระคนทุกข์ ถนอมเลี้ยง ฤ รู้วาย
ปกป้องซึ่งอันตราย จนได้รอดเป็นกายา
เปรียบหนักชนกคุณ ชนนีคือภูผา
ใหญ่พื้นพสุนธรา ก็ บ เทียบ บ เทียมทัน
เหลือที่จะแทนทด จะสนองคุณานันต์
แท้บูชไนยอัน อุดมเลิศประเสริฐคุณ
ผู้กอบนุกูลพูน ผดุงจวบเจริญวัย
ฟูมฟักทะนุถนอม บ บำราศนิราไกล
แสนยากเท่าไรไร บ คิดยากลำบากกาย
ตรากทนระคนทุกข์ ถนอมเลี้ยง ฤ รู้วาย
ปกป้องซึ่งอันตราย จนได้รอดเป็นกายา
เปรียบหนักชนกคุณ ชนนีคือภูผา
ใหญ่พื้นพสุนธรา ก็ บ เทียบ บ เทียมทัน
เหลือที่จะแทนทด จะสนองคุณานันต์
แท้บูชไนยอัน อุดมเลิศประเสริฐคุณ
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
อนึ่งข้าคำนับนอบ ต่อพระครูผู้การุณย์
โอบเอื้อและเจือจุน
|
อนุศาสน์ทุกสิ่งสรรพ์
| ||
ยัง บ ทราบก็ได้ทราบ
|
ทั้งบุญบาปทุกสิ่งอัน
| ||
ชี้แจงและแบ่งปัน
|
ขยายอรรถให้ชัดเจน
| ||
จิตมากด้วยเมตตา
|
และกรุณา บ เอียงเอน
| ||
เหมือนท่านมาแกล้งเกณฑ์
|
ให้ฉลาดและแหลมคม
| ||
ขจัดเขลาบรรเทาโม
|
หะจิตมืดที่งุนงม
| ||
กังขา ณ อารมณ์
|
ก็สว่างกระจ่างใจ
| ||
คุณส่วนนี้ควรนับ
|
ถือว่าเลิศ ณ แดนไตร
| ||
ควรนึกและตรึกใน
|
จิตน้อมนิยมชม
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น